Panorama TravelPanorama Travel
Forgot password?

Promotion Grand Italy 8Days

  • 49999+
  • 49999+

Promotion Grand Italy 8Days

โบโลญจ์ญ่า เวนิส – เวโรนา – มิลาน – เจนัว

เจนัว – ซานตา มาเกริต้า – ลาสเปเซีย – ปิซ่า

ปิซ่า – ฟลอเรนซ์ – THE MALL OUTLET

ฟลอเร้นซ์ – โรม โรม – กรุงเทพฯกำหนดการเดินทาง มิถุนายน – สิงหาคม

รายละเอียดการเดินทาง

Day 1  กรุงเทพฯ
22.00 น.  พร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 เคาน์เตอร์ T ประตู 9

โดยสายการบิน EMIRATES AIRLINES (EK) พบกับเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยอานวยความสะด

Day 2  กรุงเทพฯ – โบโลญจ์ญ่า
01.05 น.  ออกเดินทางสู่ เมืองโลญจ์ญ่า ประเทศอิตาลี โดยเที่ยวบินที่ EK385/EK093

(แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ กระเป๋าใบใหญ่เช็คทรูจากกรุงเทพฯสู่เมืองโบโลญจ์ญ่า.)

 12.35 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึง สนามบินเมืองโบโลญจ์ญ่า หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว  

นำท่านชม ย่านเมืองเก่าของโบโลญจน์ญ่า ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก

นำท่านชม FERRARI FACTORY 

จากนั้นแล้วนำท่านเดินทางต่อสู่ เมืองเวนิส เมืองท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกเมืองหนึ่งของประเทศ อิตาลี เมืองที่แสนโรแมนติกที่ไม่เหมือนเมืองใดในโลก ไม่อนุญาตให้รื้อสิ่งก่อสร้างเก่าไม่มีรถยนต์ มีแต่เรือที่จำกัดไม่ให้เสียงดัง ดังนั้นทั่วโลกจึงหลงใหลมนต์เสน่ห์อันสุนทรีย์ของเวนิชตลอดมา เดินทางถึง เมืองเวนิส

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้น นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม RUSSOTT หรือเทียบเท่า

Day 3  เวนิส – เวโรนา – มิลาน – เจนัว
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ ท่าเรือตรอนเชสโต้ เพื่อลงเรือสู่ เกาะเวนิส

จากนั้นนำท่าน ล่องเรือ ไปตามลำคลองสู่  ท่าซานมาร์โค นำท่าน ชมจตุรัสซานมาร์โค  มหาวิหารซานมาร์โค  ถ่ายภาพหน้าพระราชวังดอจ  สิ่งก่อสร้างที่  เก่าแก่มากว่า 800 ปี มาแล้ว เมื่อสมัยเวนิชยังเป็นสาธารณรัฐอิสระ …ซึ่งเคยร่ำรวยและมีอำนาจมหาศาล และเคยส่งให้มาร์โคโปโล  เดินทางไปเมืองจีน ชมโรงงานเป่าแก้วมูราโน ชมเทคนิคการเป่าแก้วซึ่งมีความชำนาญ และสอนกันในเฉพาะวงศ์ตระกูลเท่านั้น อิสระให้ท่าน เดินเล่นชมเมืองเวนิช และช้อปปิ้ง สินค้าที่มีให้เลือกมากมายเวนิชเป็นเมืองที่มีซอกเล็กซอกน้อยมากมาย ท่านจะเพลิดเพลินในการเดินเล่นในเวนิช

จากนั้นออกเดินทางสู่เมืองเวโรนา (VERONA) (125 กิโลเมตร) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในจังหวัดเวโรนา แคว้นเวเนโตในประเทศอิตาลี เมืองที่มากไปด้วยกลิ่นอายแห่งศิลปะ และวัฒนธรรมทื่ใครหลายๆคนอยากมาสัมผัสเมืองนี้อีกสักครั้ง  เมืองสำคัญในประวัติศาสตร์และเศรษฐกิจจากตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ตรงโค้งของแม่น้ำอดิเจ (Adige River) ไม่ไกลจากทะเลสาบการ์ดา ที่ตั้งนี้ทำให้เกิดน้ำท่วมขึ้นหลายครั้งจนกระทั่ง ค.ศ. 1956

นำท่านชมจตุรัสเออร์เบ (piazza delle erbe) ในสมัยโรมันเป็นที่ชุมนุมทางเศรษฐกิจการเมือง รวมทั้ง เป็นตลาดขายสมุนไพรเมื่อหลายร้อยปีก่อนด้วย ปัจจุบัน เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ มีน้ำพุ ร้านกาแฟน่ารักน่านั่งเพลินๆ และร้านค้ามากมาย อีกทั้งยังเป็นตลาดขนาดย่อม ที่มีเอกลักษณ์ที่ต่างจากจัตุรัสใหญ่ของเมืองอื่นๆ ภายในจัตุรัส เป็นแหล่งขายผักผลไม้ และขายสมุนไพร  ด้วย แต่ในช่วงกลางคืนจัตุรัสแห่งนี้จะคราคร่ำไปด้วยผู้คนที่ออกมาสังสรรค์กันในยามราตรี

ชมบริเวณด้านนอกสนามกีฬาโรมันอารีน่า เวโรน่า (verona arena) สนามกีฬาโรมันอารีน่า สนามกีฬากลางแจ้งแบบโบราณในยุคโรมัน ตั้งอยู่ในเมืองเวโรน่า ประเทศอิตาลี สนามกีฬากลางแจ้งแห่งนี้ สร้างขึ้นใน ค.ศ.30 เป็นที่ใช้แสดงโชว์ ละคร และกีฬาต่างๆ ดึงดูดผู้ชมจากทั่วทุกสารทิศ แต่เดิมด้านนอกของอาคาร สร้างจากหินปูนสีขาวและสีชมพู แต่หลังจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ใน ค.ศ. 1117 กำแพงด้านนอกก็พังทลายลงเกือบเหมด

ชมด้านบ้านจูเลียต เวโรนา (juliet’s house verona) ที่โด่งดังมาจากนิยายรักอมตะเรื่องเอกของ วิ  ลเลี่ยม เชกส์เปียร์ โรมิโอและจูเลียต เรื่องนี้แต่งจากเรื่องจริงของคู่รักที่อาศัยอยู่ในนครเวโรนา ประเทศอิตาลี ภายในบ้านของจูเลียตจะเห็นระเบียงที่โรมิโอปีนเข้าหา   จูเลียต รูปปั้นจูเลียตที่เป็นบรอนซ์ ปั้นโดย N.Costantini ว่ากันว่าใครอยากสมหวังในเรื่องความรักก็ให้ไปจับที่หน้าอกของ จูเลียตเพื่อขอพรให้สมหวังในความรัก

 เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองมิลาน (MILANO) (170 กิโลเมตร) เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่สำคัญของอิตาลี เมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงแห่งแฟชั่น ….

ชมโบสถ์ดูโอโม่แห่งมิลาน โบสถ์ใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป เป็นศิลปะแบบกอธิคที่หรูหรา และใช้เวลาในการสร้างนานเกือบ 500 ปี โดยเริ่มสร้างตั้งแต่ ปี ค.ศ.1386 และที่น่าทึ่งของโบสถ์ ก็คือการตกแต่งประดับประดาที่เน้นความหรูหราอย่างเต็มที่โดยเฉพาะรูปปั้นรอบตัวอาคาร มีจำนวนกว่า 3,000 ชิ้น ขวามือของโบสถ์มีอาคารทรงกากบาทหลังหนึ่ง และหลังคามุงด้วยกระเบื้องโปร่งใส เรียกกันว่า“อาเขต” สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แก่กษัตริย์

วิคเตอร์เอมมานูเอลที่ 2 ปฐมกษัตริย์ของอิตาลีในการรวมชาติ

นำท่าน ช้อปปิ้งภายในอาคารแกลเลอเรีย วิคตอริโอ เอมานูเอล 2 ช้อปปิ้งอาเขตที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีชื่อเรียกเล่นๆว่าเป็นห้องนั่งเล่นของเมืองมิลาน เพราะนอกจากจะมีสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงขายแล้ว ยังมีร้านกาแฟที่เรียกกันว่า ไซด์ วอล์ค คาเฟ่ สามารถนั่งจิบ คาปูชิโน นั่งดูหนุ่มสาว แต่งกายด้วยเสื้อผ้าทันสมัย ดังนั้นหากท่านไม่คิดจะช้อปปิ้งหรือนั่งกินกาแฟก็ควรที่จะต้องไปเดินเล่นชมความงดงามของอาคารหลังนี้ให้ได้ หรือหากท่านยังติดใจในเรื่องช้อปปิ้ง ก็สามารถไปช้อปปิ้งต่อได้ยังถนนเวีย มอนเต้นโปเลโอเน่ ซึ่งถือเป็นย่าน   ช้อปปิ้งที่ขึ้นชื่อที่สุดของเมืองนี้ ตั้งอยู่ระหว่างโบสถ์ดูโอโม่กับลานกว้างแห่งหนึ่ง อิสระให้ท่านช้อปปิ้งตามอัธยาศัย  ….

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองเจนัว (GENOVA) (170 กิโลเมตร)  เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่สุดของประเทศอิตาลี นอกจากนั้นเจนัวยังเป็นรัฐอิสระที่ตั้งอยู่ที่ลิกูเรีย ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของฝั่งทะเลอิตาลี ที่มีความรุ่งเรืองมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 11 มาจนถึง ค.ศ. 1797 และด้วยสภาพภูมิประเทศที่เหมาะสมต่อการเดินเรือนี่เอง จึงส่งผลให้เมืองเจนัวกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญ ริมฝั่งชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางฝั่งตะวันตกของอิตาลีไปโดยปริยาย 

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (จีน)

จากนั้นนำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม MERCURE GENOVA หรือเทียบเท่า

Day 4 เจนัว – ซานตา มาเกริต้า – ลาสเปเซีย – ปิซ่า
เข้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองซานตา มาเกริต้า (SANTA MAGHERITA LIGURE) (29.8 กม.) ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเจนัว หนึ่งในเขตดินแดนแห่งลิกูเรียขนาบข้างด้วยทะเลกับภูเขาลิกูเรีย เป็นภูมิภาคที่มีชื่อเสียงมานานในเรื่องของอากาศที่เย็นสบายจลอดทั้งปี มีชายหาดที่สวยงาม

หมายเหตุ : หากใครต้องการข้ามไป เมืองพอร์ตโตฟิโน (PORTOFINO) เมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงอยู่ติดน้ำมีความงามที่โดดเด่น

โดยการนั่งเรือเฟอรรี่ข้ามฟากประมาณ 12 ยูโรต่อท่าน  (ราคาไม่รวมอยู่ในรายการทัวร์กรุณาติดต่อหัวหน้าทัวร์ถ้าต้องการไป)

 เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองลาสเปเซีย (LA SPEZIA) (81.3 กม.) เมืองในเขตลิกูเรียทางตอนเหนือของอิตาลี อยู่ระหว่างเมืองเจนัวและปิซ่า บนทะเลลิกูเรียและเป็นหนึ่งในอ่าวที่มีความสำคัญทางด้านการค้า และการทหาร ..เดินทางถึง เมืองลาสเปเซีย… อิสระให้ท่านเดินเล่นตามอัธยาศัย ย่านเมืองเก่า

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองปิซ่า (PISA) (100 กิโลเมตร) แคว้นทัสคานีเป็นเมืองที่เป็นที่รู้จักอย่างดีเกี่ยวกับหอเอนเมืองปิซ่า ซากโบราณวัตถุของเมืองที่ยังหลงเหลือจากศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาลเป็นเมืองที่เคยมีความสําคัญอย่างมากด้านการค้าขายในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในช่วงประมาณศตวรรษที่ 11

นำท่าน ถ่ายภาพกับหอเอนเมืองปิซ่า (LEANING TOWER OF PISA) เป็นหอคอยหินอ่อนที่พิสดารสูง 54 เมตร มี 8 ชั้น แต่ละขั้นมีเสาหินอ่อนที่สลักลวดลายวิจิตร ได้ลงมือสร้างเมื่อ ค.ศ. 1174 ไปเสร็จในปี ค.ศ. 1350 ใช้เวลานานถึง 176 ปี ซึ่งเป็นสิ่งก่อสร้างที่ใช้เวลาสร้างนานที่สุดในโลกความน่าอัศจรรย์อีกอย่างคือ เมื่อเริ่มสร้างได้ 4-5 ชั้น หอนี้ เริ่มเอียง แต่ไม่ถึงกลับพังทลายลงมาเพราะแรงที่จุดศูนย์ถ่วงเมื่อลากดิ่งลงมาไม่ออกนอกฐานจึงไม่ล้มยังทรงตัวอยู่ได้ เมื่อสร้างเสร็จยอดของหอเอียงออกจากแนวดิ่งของฐานถึง 4 เมตร และหอเอนนี้ช่วยให้กาลิเลโอนักวิทยาศาสตร์ ชาวอิตาเลียน ผู้มีชื่อเสียงของโลกได้ทดลองเรื่องอัตราเร็วของเทห์วัตถุที่ตกลงมาจากที่สูง ที่ขึ้นชื่อในด้านความสัมพันธ์ของการสร้างกับแรงโน้มถ่วงของตัวอาคารที่สมดุลกันโดยบังเอิญได้ชื่อว่าเป็น หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกสมัยกลาง และเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของอิตาลี

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

จากนั้น นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม NH PIZA หรือระดับเทียบเท่า

Day 5 ปิซ่า – ฟลอเรนซ์ – THE MALL OUTLET
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองฟลอเร้นซ์ (FLORENCE) (70 กิโลเมตร) เมืองแห่งดอกไม้บาน ตำนานแห่งบ้านเกิดของศิลปินชื่อดังก้องโลก เช่น ลีโอนาร์โด ดาร์วินชี ไมเคิล แองเจโล และท่านศิลป์พีระศรี อดีตเป็นเมืองหลวงเก่าของอิตาลีก่อนจะย้ายไปอยู่กรุงโรม เมืองที่มีความเจริญมั่งคั่งทางการค้า และเศรษฐกิจ เป็นเมืองที่มีความสวยงามจนท่านจะหลงไหล และถือเป็นเมืองต้นกำเนิดศิลปะแบบเรเนอซองส์อีกด้วย

นำท่านชมย่านเมืองเก่า   ชมดูโอโม่ประจำเมืองฟลอเร้นซ์ ที่มีความงดงามตามแบบเรเนอซองส์ ชมสะพานแวคคิโอ สัญลักษณ์ของเมืองฟลอเร้นซ์ เดินผ่านร้านค้า และสินค้าที่วางขายอยู่มากมายที่ล่อตาล่อใจจนท่านอดใจไม่ได้ ชมจตุรัสซิญญอเรีย และชมรูปปั้นของเดวิท ชายหนุ่มรูปงามที่สมบูรณ์แบบที่สุดในตำนานสัญลักษณ์ของการปลดปล่อยเสรีภาพ ที่แวดล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมชิ้นสำคัญต่างๆมากมายจนได้ฉายาว่าเป็น พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ชมจตุรัสซานตาโกรเช่ สถานที่ฝังศพของไมเคิลแองเจโล อิสระให้ท่านเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งสินค้า  ชั้นนำของอิตาลี

เที่ยง รับประทานอาหารค่ำเที่ยง ณ ภัตตาคาร

นำท่านแวะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมที่ THE MALL OUTLET กับสินค้าชั้นนำของอิตาลีหลากหลายยีห้อ เช่น อาร์มานี่ บาลองเชียก้า โบเตก้า เวนาต้า กุซซี่ เฟอร์รากาโม่ TOD’S PRADA เป็นต้น

ค่ำ *.*.*. อิสระอาหารค่ำภายใน OUTLET ตามอัธยาศัย เพื่อความสะดวกในการช้อปปิ้ง *.*.*.

จากนั้น นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม ART MIRO หรือเทียบเท่า

Day 6 ฟลอเร้นซ์ – โรม
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ กรุงโรม (ROMA) (275 กิโลเมตร) เมืองหลวงขนาดใหญ่ของประเทศอิตาลี ที่มีทั้งความเก่าและความใหม่ซ้อนแทรกอยู่ด้วยกันอย่างกลมกลืน ตั้งอยู่บนแคว้นลาซิโอ (LAZIO) ตรงช่วงกลางของประเทศมีแม่น้ำไทเบอร์ (TIBER) ไหลผ่านกลางเมือง โรมจึงถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน สถานที่สำคัญ และเมืองเก่าโรมันจะอยู่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำ ส่วนฝั่งซ้ายเป็นรัฐวาติกัน และเขตทราสเตเวเร (TRASTEVERE) ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้มีฐานะ และปัจจุบันเป็นแหล่งร้านอาหาร และคาเฟ่แบบเก๋ๆทันสมัย เดินทางถึง กรุงโรม

จากนั้นนำท่าน เข้าชมภายในมหาวิหารเซนต์ปี เตอร์ (SAN PIETRO) ในกรุงวาติกันนครรัฐ อิสระศูนย์กลางศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ชมความยิ่งใหญ่ของศิลปะการออกแบบผลงานอันลํ้าค่าโดยปรมาจารย์บราเมนเต้ราฟาเอล และไมเคิล แองเจโล

นำท่าน ชมกรุงโรม เมืองหลวงของประเทศอิตาลีซึ่งมีอดีตอันยิ่งใหญ่ และเกรียงไกรในยุคจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจเมื่อราวกว่า 2,000 ปีที่ผ่านมาแล้ว เข้าสู่ นครวาติกัน รัฐอิสระที่ปกครองตนเองเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก       ชมความงดงามตระการตาของ มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ สถาปัตยกรรมล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่งของโลกซึ่งตกแต่งอย่างโอ่อ่าหรูหรา ชมรูปปั้นแกะสลัก “เพียต้า” ผลงานของศิลปินเอก ไมเคิลแองเจโล เสาพลับพลาที่ออกแบบโดย เบอร์นินี และยอดโดมขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบันเป็นสิ่งล้ำค่าคู่บ้านคู่เมืองของอิตาลี

เที่ยง รับประทานอาหารเที่ยง ณ ภัตตาคาร
บ่าย นำท่านถ่ายรูปที่ระลึกด้านหน้า สนามกีฬาโคลอสเซียม โบราณสถานเก่าแก่ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เคยเป็นสนามกีฬายักษ์ที่สามารถจุคนได้กว่า 50,000 คน และ ประตูชัยคอนสแตนติน สัญลักษณ์แห่งชัยชนะและที่มาของ“ถนนทุกสายมุ่งสู่กรุงโรม”

..ชมน้ำพุเทรวี่จุดกำเนิดของเสียงเพลง  “ทรีคอยน์ออฟเดอร์ฟาวด์เท่น” ที่โด่งดัง ชมความสวยงามของงานประติมากรรมหินอ่อนแบบบาร็อค ซึ่งเป็นเรื่องราวของเทพมหาสมุทร ตามตำนานกล่าวไว้ว่าหากใครได้มาถึงน้ำพุแห่งนี้แล้วโยนเหรียญอธิษฐานทิ้งไว้จะได้กลับมาเยือนกรุงโรมอีกครั้งหนึ่ง….นำท่านชมย่าน “บันไดสเปน” แหล่งพักผ่อนของชาวอิตาลีซึ่งเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว  หลากหลายเชื้อชาติ

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารอาหารจีน

จากนั้น นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม NOVOTEL ROMA LA RUSTICA หรือเทียบเท่า

Day 7 โรม – กรุงเทพฯ
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม

อิสระให้ท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย หรือท่านจะช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ตามอิสระย่านถนน VIA CONDOTTI

จนได้เวลานัดหมาย แล้วนำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางกลับสู่กรุงเทพฯ

20.45 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยเที่ยวบินที่ EK096/EK372

(แวะเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินดูไบ กระเป๋าใบใหญ่เช็คทรูจากกรุงโรมสู่กรุงเทพฯ.)

Day 8 กรุงเทพ ฯ
18.40 o. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพ….

ราคาเริ่มต้นที่ 49,999 บาท