Panorama TravelPanorama Travel
Forgot password?

Promition Highlight Turkey 8 Days

Promition Highlight Turkey 8 Days

ฮิปโปโดรม-สุเหร่าสีน้ำเงิน-โบสถ์เซนต์โซเฟีย-พระราชวัง
ทอปกาปิ-เมืองชานัคคาเล่ เมืองชานัคคาเล่-ม้าไม้แห่งกรุงทรอย-
เมืองเปอร์กามัมวิหารอะโครโปลิส-โรงละครที่ชันที่สุดในโลก
เมืองคูซาดาซึ – เมืองคูซาดาซึ-บ้านพระแม่มารี-เมืองโบราณเอฟฟิซุส
เมืองปามุคคาเล่-ปราสาทปุยฝ้าย -เมืองปามัคคาเล่-เมืองคอนย่า
พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า -เมืองคัปปาโดเกีย – ระบำหน้าท้อง
เมืองคัปปาโดเกีย-พิพิธภัณฑ์เกอเรเม่-เมืองใต้ดินไคมัคลี่
เยี่ยมชมบ้านของมนุษย์ถ้ำ-เมืองเนฟเชียร์-กรุงอิสตันบูล
กรุงอิสตันบูล-ล่องเรือบอสฟอรัส-พระราชวังโดลมาบาชเช่

กำหนดการเดินทาง กรกฎาคม – ตุลาคม 2559

รายละเอียดการเดินทาง

 

วันแรก  สนามบินสุวรรณภูมิ
08.00 น.  พบกันที่ เคาน์เตอร์เช็คอิน S ประตู 9 สายการบิน  เตอร์กิช แอร์ไลน์ TK  เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกทางด้านสัมภาระและเอกสารการเดินทางก่อนขึ้นเครื่อง
 10.55 น. ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 65  (บินตรง)
17.05 น. เดินทางถึงสนามบิน กรุงอิสตันบูล Istanbul หลังจากผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว

พักค้างคืน ที่  Ramada Encore Hotel  4* หรือเทียบเท่า

วันที่สอง ฮิปโปโดรม-สุเหร่าสีน้ำเงิน-โบสถ์เซนต์โซเฟีย-พระราชวัง ทอปกาปิ-เมืองชานัคคาเล่
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

ชมสนามแข่งม้าของชาวโรมัน หรือ “ฮิปโปโดรม” Hippodrome หรือจัตุรัสสุลต่านอาห์เมต สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ เซปติมิอุส เซเวรุส เพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่าง ๆ ของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน ฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้น ตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็นที่จัดงานพิธี แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมต ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์ 3 ต้น คือ เสาที่สร้างในอียิปต์ เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ตุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูล เสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7 จากนั้นนำท่านชม สุเหร่าสีน้ำเงิน Blue Mosque ที่มาของชื่อสุเหร่าสีน้ำเงินเป็นเพราะเขาใช้กระเบื้องสีน้ำเงินในการตกแต่งภายใน ซึ่งทำเป็นลายดอกไม้ต่าง ๆ เช่น ดอกกุหลาบ คาร์เนชั่น ทิวลิป เอกลักษณ์เด่นอีกอย่างแต่อยู่ภายนอกคือ หอประกาศเชิญชวนเมื่อถึงเวลาที่จะต้องทำพิธีละหมาด Minaret 6 หอ เท่ากับสุเหร่าที่นครเมกกะ

จากนั้นท่านเข้าชม โบสถ์เซนต์โซเฟีย St. Sophia ซึ่งเป็นศิลปะแบบไบแซนไทม์ ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ สร้างขึ้นสมัยจักรพรรดิคอนสแตนติน ของจักรวรรดิไบแซนไทม์ เดิมใช้เป็นโบสถ์คริสต์แต่หลังจากจักรวรรดิออตโตมันเข้ามาปกครองจึงได้

เปลี่ยนโบสถ์ดังกล่าวมาเป็นมัสยิด แต่ได้เปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติในสมัย เคมาล อะตาเติร์ก หลังจากที่เป็นโบสถ์ในศาสนาคริสต์เป็นเวลากว่า 916 ปี และเป็นมัสยิดอีกกว่า 447 ปี ปัจจุบันเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมความงามและความยิ่งใหญ่ ภายในมีภาพประดับโมเสกทองที่สมบูรณ์บ่งบอกถึงความศรัทธาอันแรงกล้าของจักรพรรดิคอนสแตนตินที่มีต่อคริสต์ศาสนา นำท่านชม อุโมงค์เก็บน้ำเยเรบาตัน Yerebatan Sarnici ซึ่งเป็นอุโมงค์เก็บน้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอิสตันบูล สามารถเก็บน้ำได้มากถึง 88,000 ลูกบาศก์เมตร สร้างขึ้นตั้งแต่คริสต์ศวรรษที่ 6 ภายในอุโมงค์ มีเสากรีกต้นสูงใหญ่ค้ำเรียงรายเป็นแถวถึง 336 ต้น และมีเสาต้นที่เด่นมากคือ เสาเมดูซ่า อิสระให้ท่านถ่ายรูป และชมความงามใต้ดินของอุโมงค์เก็บน้ำขนาดใหญ่

 เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารจีน

นำท่านเข้าชม พระราชวังทอปกาปึ Topkapi Palace ซึ่งสร้างในสมัยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 หรือ เมห์เมตผู้พิชิต ภายหลังที่ทรงตีกรุงคอนสแตนติโนเปิล หรือ อิสตันบูลในปัจจุบันได้แล้ว ทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของอาณาจักรออตโตมัน จึงโปรดให้มีการสร้างพระราชวังนี้ขึ้นเป็นที่ประทับอย่างถาวร ซึ่งภายในพระราชวังทอปกาปึกลายเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติที่ใช้เก็บมหาสมบัติอันล้ำค่า อาทิเช่น เพชร 96 กะรัต กริชทองประดับมรกต เครื่องลายครามจากจีน หยก มรกต ทับทิม และเครื่องทรงของสุลต่านในแต่ละยุคสมัย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองอีเซียบัท Eceabat (ระยะทาง 340 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง) จากนั้นนำท่านข้ามช่องแคบดาดาแนลโดยเรือเฟอร์รี่ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ขึ้นฝั่งที่ เมืองชานัคคาเล่ Chanakkale ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลมาร์มาร่า ตัดกับทะเลอีเจียนซึ่งเป็นที่ตั้งกรุงทรอย

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักค้างคืน ที่      Tusan  Hotel 4*    หรือเทียบเท่า

วันที่สาม เมืองชานัคคาเล่-ม้าไม้แห่งกรุงทรอย-เมืองเปอร์กามัม วิหารอะโครโปลิส-โรงละครที่ชันที่สุดในโลก-เมืองคูซาดาซึ
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านสู่ กรุงทรอย Troy ชม ม้าไม้แห่งกรุงทรอย Wooden Horse of Troy สร้างขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่หลงใหลในมหากาพย์อีเลียดได้เห็นด้วยตาของตนเองอีกด้วย ได้เวลาพอสมควร นำท่านเดินทางสู่ เมืองเปอร์กามัม Pergamum

 เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านชมความสวยงามของ วิหารอะโครโปลิส Acropolis ซึ่งถูกกล่าวขวัญว่าเป็นประหนึ่งดินแดนในเทพนิยาย นำท่านนั่งกระเช้าสู่ด้านบนของยอดเขา ซึ่งสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง คือ โรงละครที่ชันที่สุดในโลก ซึ่งจุผู้ชมได้ถึง 10,000 คน จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ Kusadasi ที่แปลว่า เกาะนก ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกีติดกับชายฝั่งทะเลอีเจียนเป็นท่าเรือที่สำคัญ เรื่อที่ล่องทะเลอีเจียนจะจอดเรียงรายกันอยู่ที่เมืองคูซาดาซึ แห่งนี้เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นฝั่งไปเที่ยว เมืองเอฟฟิซุส Ephesus

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักค้างคืน ที่        Marina Hotel  4*    หรือเทียบเท่า

วันที่สี่ เมืองคูซาดาซึ-บ้านพระแม่มารี-เมืองโบราณเอฟฟิซุส-เมืองปามุคคาเล่-ปราสาทปุยฝ้าย
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางสู่ บ้านพระแม่มารี The Virgin Mary’s House สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งพระแม่มารีเสด็จมากับนักบุญจอห์นใน ค.ศ. 37-48 และสิ้นพระชนม์ลง ณ สถานที่แห่งนี้ นำท่านสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส City of Ephesus อดีต เป็นเมืองหลวงแห่งเอเชียของอาณาจักรโรมัน ชม อาคารที่เป็นสัญลักษณ์ของ นครเอฟฟิซุส คือ ห้องสมุดของเซลซุส Library of Celsus และอาคารสำคัญอีกแห่งคือ วิหารแห่งจักรพรรดิเฮเดรียน Temple of Hadrian สร้างขึ้นถวายแด่จักรพรรดิเฮ    เดรียน ความโดเด่นของวิหารแห่งนี้คืออยู่ในสภาพที่สมบูรณ์มาก จากนั้นปิดท้ายกันที่สิ่งก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในนครเอฟฟิซุส คือ โรงละคร Great Theatre ซึ่งสร้างโดยสกัดเข้าไปในไหล่เขาให้เป็นที่นั่ง สามารถจุคนได้ถึง 25,000 คน ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 10 ของประชากรในยุคนั้น สร้างสมัยกรีกโบราณ แต่พวกโรมันมาปรับปรุงให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น นำท่านช้อปปิ้ง ณ ศูนย์ผลิตเสื้อหนังคุณภาพสูง ซึ่งตุรกีเป็นประเทศที่ผลิตหนังที่มีคุณภาพที่สุด อีกทั้งยังผลิตเสื้อหนังส่งให้กับแบรนด์ดังในอิตาลี เช่น Versace , Prada , Michael Kors  อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าได้ตามอัธยาศัย

 เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ Pamukkale (ระยะทางประมาณ 185 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.45 ชั่วโมง) ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศตุรกี นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย Cotton Castle โดยลักษณะที่โดดเด่นของ ปามุคคาเล่ Pamukkale เป็นเนินเขาสีขาวโพลน เนื่องจากที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยส่วนประกอบของแคลเซี่ยม มีความยาวประมาณ 2.7 กิโลเมตร สูง 160เมตร เกิดจากน้ำพุร้อนที่นำแคลเซี่ยมคาร์บอเนตมาตกตะกอน โดยบ่อน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้นี่เองที่ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้น ๆ หลายชั้น และผลจากการแข็งตัวของแคลเซี่ยมทำให้เกิด

เป็นแห่งหินสีขาวราวกับหิมะไหลหลั่นเป็นทางน้ำยาว ที่มีความสวยงามมาก ๆ ปัจจุบันนี้ ปามุคคาเล่ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่ตั้งอยู่บนปามุคคาเล่ ในปี พ.ศ. 2531 จากนั้นนำท่านชม นครโบราณเฮียราโปลิส Hierapolis ในอดีตเป็นสถานที่บำบัดโรค ก่อตั้งโดยกษัตริย์ยูเมเนส ที่ 1 แห่งแพร์กามุม ในปี 190 ก่อนคริสตกาล สถานที่แห่งนี้มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหลายครั้งหลังปี ค.ศ. 1334 จึงได้มีคนอาศัยอยู่อีก ศูนย์กลางนครเฮียราโปลิส เป็นบ่อน้ำที่ศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในโรงแรมเมืองปามุคคาเล่

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำแบบบุฟเฟต์ ณ ห้องอาหารของโรงแรม

พักค้างคืน ที่   Ninova Thermal Hotel 4*   หรือเทียบเท่า

วันที่ห้า เมืองปามัคคาเล่-เมืองคอนย่า-พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า-เมืองคัปปาโดเกีย-ระบำหน้าท้อง
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า Konya (ระยะทางประมาณ 387 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 4 ชั่วโมง) เป็นเมืองที่ นิยมใช้เป็นจุดพักของการเดินทางในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุกเติร์ก ซึ่งเป็นอาณาจักรแห่งแรกของชาวเติร์กในตุรกี หรือที่ยุคนั้นเรียก อนาโตเลีย เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ

 เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารพื้นเมือง

นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์เมฟลานา Mevlana Museum เดิมเป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามใช้สำหรับทำสมาธิ Whirling Dervishes โดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ก่อนไปทำการหมุนต้องอดอาหาร มีการเข้าห้องฝึกทรมานร่างกายก่อนที่จะไปหมุนได้ ผู้ที่มีสมาธิมากตัวจะลอยขึ้นเมื่อหมุนไปช่วงเวลาหนึ่ง ก่อตั้ง โดยเมฟลาน่า เจลาเลดดิน รูมี่ ผู้วิเศษในศาสนาอิสลาม ส่วนหนึ่งของ พิพิธภัณฑ์เมฟลาเป็นสุสานของ เมฟลานา เจลาเลดดิน รูมี Mevlana Celaleddin Rumi ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใน ภายในประดับประดาฝาผนังแบบมุสลิม โดยใช้สีมากมายตระการตาซึ่งหาชมได้ยาก และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตรของเมฟลาด้วย นำท่านเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย Cappadocia ซึ่งองค์การยูเนสโก้ได้ประกาศให้เป็นเมืองมรดกโลก เมืองที่มีลักษณะภูมิประเทศสวยงามมากระหว่างทางแวะชม คาราวานสไลน์ Caravanserai ที่พักแรมระหว่างทางของชาวเติร์กในสมัยออตโตมัน

นำท่านออกเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (ระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง)

ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคารในโรงแรมแบบบุฟเฟต์

จากนั้นนำท่านชม “ระบำหน้าท้อง” ประกอบดนตรีของสาวน้อยชาวตุรกี

พักค้างคืน ที่     Gold Yildirim Hotel 4*    หรือเทียบเท่า

วันที่หก เมืองคัปปาโดเกีย-พิพิธภัณฑ์เกอเรเม่-เมืองใต้ดินไคมัคลี่ เยี่ยมชมบ้านของมนุษย์ถ้ำ-เมืองเนฟเชียร์-กรุงอิสตันบูล
05.00 น.  ท่านที่สนใจนั่งบอลลูน พร้อมกัน ณ บริเวณล๊อบบี้ (ทัวร์นั่งบอลลูนนี้ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ ค่าขึ้นบอลลูนประมาณท่านละ 200 ดอลล่าสหรัฐในกรณีที่ชำระด้วยเงินสด และราคา 210 ดอลล่าสหรัฐ ในกรณีที่ชำระด้วยบัตรเครดิต บริษัทตัวแทนผู้ให้บริการทัวร์บอลลูนในตุรกี มีประกันภัยให้กับทุกท่าน แต่สำหรับประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูน และเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ Optional Tour ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน) เจ้าหน้าที่บริษัทบอลลูน รอรับท่าน เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ที่ไม่ควรพลาด พร้อมกับประกาศนียบัตรที่รอมอบให้กับทุกท่าน
 เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่านชม นครใต้ดินไคมัคลี Underground City of Derinkuyu or Kaymakli  เกิดจากการขุดเจาะพื้นดินลึกลงไป 10 กว่าชั้น เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยจากข้าศึกศัตรูนครใต้ดินไคมัคลีมีชั้นล่างที่ลึกที่สุดลึกถึง 85 เมตร เมืองใต้ดินแห่งนี้มีครบเครื่องทุกอย่างทั้งห้องโถง ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องถนอมอาหาร ห้องครัว ห้องอาหาร โบสถ์ ทางหนีฉุกเฉิน ฯลฯ จากนั้นให้ท่านได้แวะชม โรงงานทอพรม และ โรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้าและของที่ระลึกได้ตามอัธยาศัย

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

ท่านชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้งเกอเรเม่ Goreme Open Air Museum เป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่น ทำให้ผู้นับถือศาสนาคริสต์ต้องหลบซ่อนการรังควาน ด้วยการเจาะถ้ำขุดพื้นลงไปเป็นอุโมงค์ เกิดเป็นเมืองใต้ดินขึ้นมา ณ บริเวณเกอเรเม่ ทำให้เป็นโบสถ์ถ้ำจำนวนมาก ว่ากันว่ามีมากถึง 365 หลังด้วยกัน แต่ปัจจุบันเปิดให้ชมเพียงบางส่วนเท่านั้น ชม โบสถ์เซนต์บาร์บารา                St. Barbar Church โบสถ์มังกร Snake Church และ โบสถ์แอปเปิ้ล Apple Church อิสระให้ท่านได้ถ่ายรูปกับภูเขารูปทรงต่าง ๆ ได้ตามอัธยาศัย พิเศษ!! เข้าชมบ้านพักของมนุษย์ถ้ำพื้นเมือง Local Cave House ของชาวพื้นเมือง Cappadocia พร้อมดื่มชา กาแฟ เนื่องจากธรรมเนียมของชาวเมืองตุรกี เมื่อมีผู้มาเยี่ยมเยียนก็จะมอบชา กาแฟ เพื่อแสดงถึงน้ำใจและมิตรภาพระหว่างเพื่อนใหม่ อิสระให้ท่านได้ถ่ายภาพบ้านพื้นเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่จริงๆ

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารพื้นเมือง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินไคเซอร์รี่ร์
19.30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 2009
21.00 น. เดินทางถึงสนามบิน กรุงอิสตันบูล จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสู่โรงแรมที่พัก

พักค้างคืน ที่     Ramada Encore Hotel 4*  หรือเทียบเท่า

วันที่เจ็ด กรุงอิสตันบูล-ล่องเรือบอสฟอรัส-พระราชวังโดลมาบาชเช่ ช้อปปิ้งตลาดสไปซ์-กรุงเทพมหานคร
เช้า  รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม

นำท่าน ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส Cruise Along the Bosphorus ซึ่งเป็นช่องแคบที่เป็นเส้นแบ่งระหว่างยุโรปและเอเชีย ชมทิวทัศน์ทั้งสองข้างที่สวยงามตระการตาของ เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญยิ่งในการป้องกันประเทศตุรกี เข้าชม พระราชวังโดลมาบาชเช่ Dolmabahce Palace สะท้อนให้เห็นถึงความเจริญสูงสุดทั้งทางวัฒนธรรมและทางวัตถุของออตโตมัน สร้างโดย สุลต่าน อับดุล เมอซิท ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 12 ปี ออกแบบโดยสถาปนิกคู่ใจชาวอาเมเนี่ยน ชื่อ บัลยัน เป็นศิลปะผสมผสานของยุโรปและตะวันออก ภายในประกอบด้วยห้องต่าง ๆ ตกแต่งด้วยโคมระย้า บันไดลูกกรง แก้วเจียระไน และ โคมไฟมหึมาหนัก 4.5 ตัน  ซึ่งแขวนไว้อย่างโดดเด่นในห้องท้องพระโรงใหญ่

เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารอาหารท้องถิ่น

ส่งท้ายครึ่งวันช่วงเช้าด้วยการนำท่านสู่ ย่านช้อปปิ้ง ตลาดสไปซ์ Spice Market หรือตลาดเครื่องเทศ ท่านสามารถเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ ชาหรือกาแฟ รวมถึงผลไม้อบแห้งอันเลื่องชื่อของตุรกี อย่าง แอปปลิคอท หรือจะเป็นถั่วพิทาชิโอ ซึ่งมีให้เลือกซื้อมากมาย แนะนำว่าของที่ตลาดสไปซ์แห่งนี้ราคาไม่แพงเหมือนกับตลาดแกรนด์ บาร์ซาร์ ท่านสามารถเลือกซื้อได้โดยอาจจะมีต่อรองราคาเล็กน้อย จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน

20.05 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดย เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 64

สำหรับคณะที่เดินทางวันที่ 16-23 ก.ค. 2559

หลังจากช้อปปิ้งตลาดสไปซ์ Spice Market แล้ว นำท่านเดินทางสู่ภัตตาคาร

เย็น รับประทานอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น

จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเตรียมตัวเดินทางกลับสู่ กรุงเทพมหานคร

00.40 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดย เตอร์กิช แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TK 68
วันที่แปด กรุงเทพมหานคร
09.25 น. 

คณะที่เดินทางขากลับ อิสตันบูล-กรุงเทพฯ เดินทางด้วย TK64  20:05-09:25

 

เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

 เฉพาะวันที่ 07-14 ส.ค. / 12-19 ส.ค. / 03-10 ก.ย. / 10-17 ก.ย. / 17-24 ก.ย. / 24 ก.ย.-01 ต.ค.

 

14.15 น.

คณะที่เดินทางขากลับ อิสตันบูล-กรุงเทพฯ เดินทางด้วย TK68  00:40-14:15

เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจ

เฉพาะคณะที่ออกเดินทางวันที่ 16-23 ก.ค.59 เท่านั้น

ราคาเริ่มต้นที่ 39,900 บาท